วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558

ผลการเคลื่อนที่จากแผ่นธรณีภาค

  การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาคทำให้ผิวโลกค่อนข้างเรียบในยุคสมัยแรกๆ ที่โลกถือกำเนิดขึ้้น
มากลายเป็นโลกที่มีส่วนสูงๆ ต่ำๆ ของภูเขา หุบเหว ที่ราบสูง ที่ราบต่ำ และแอ่งขนาดใหญ่ที่รองรับ
น้ำ คือ ทะเลและมหาสมุทร ตลอดจนแหล่งน้ำต่างๆ บนพื้นดิน เช่น ทะเลสาบ แม่น้ำ ลำธาร ซึ่ง
ปรากฎให้เห็นทุกหนทุกแห่งทั่วโลก
  นอกจากนี้การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาคก็ยังก่อให้เกิดแรงอัด แรงดึง และแรงเฉือนในชั้นหิน
ทำให้เกิดรอยคดโค้งหรือรอยเลื่อนในชั้นหินที่ประกอบด้วยกันเป็นเปลือกโลกได้

      1. รอยคดโค้ง
            รอยคดโค้ง (fold) ของหินโผล่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนลักษณะที่เกิดจากผลของ 
แรงเค้น จนเกิดความเครียดในหินโดยแสดงออกในรูปของการคดโค้ง โก่งงอ หรือหักพับ 
รอยคดโค้งมีได้ทั้งขนาดเล็กแบบดูด้วยตาเปล่าไม่เห็น (microscopic scale) ขนาดเท่ากับฝ่ามือ
 (mesoscale) หรือใหญ่ (macroscopic หรือ regional scale) จนปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศหรือ
ภาพโทรสัมผัสได้ การเกิดชั้นหินคดโค้งจึงต้องเกิดในสภาวะที่หินมีลักษณะอ่อนนิ่ม สามารถ
เคลื่อนตัวไหลและยืด ชั้นหินที่แข็งแรงแสดงชั้นชัดเจนเกิดการโค้ง มักแสดงการโค้งแบบการไหล
เลื่อนไปตามชั้น (layer-parallel slippage) เหมือนการโค้งพับหนังสือ แต่สำหรับชั้นหินที่อ่อนนิ่ม 
การโค้งมักแสดงในรูปไหลลื่นยืดออก หรือบางครั้งเกิดการละลายความดันในส่วนที่เป็นรอยแตก
เรียบได้ โครงสร้างของรอยคดโค้งแบ่งได้เป็น โครงสร้างประทุนคว่ำ (anticline) และโครงสร้าง
ประทุนหงาย (syncline) โดยชั้นหินแก่อยู่ล่างชั้นหินอ่อน แต่ถ้ายังไม่สามารถลำดับอายุของชั้น
หินได้ควรเรียกเพียง antiform หรือ synform

รูปภาพ รอยคดโค้งเกิดจากการบีบอัดอย่างรุนแรง


    2.รอยเลื่อน
        รอยเลื่อน ( fault) หรือ แนวรอยเลื่อน (fault line) เป็นรอยแตกระนาบ (planar fracture) 
ในหิน ที่หินด้านหนึ่งของรอยแตกนั้นเคลื่อนที่ไปบนหินอีกด้านหนึ่ง รอยเลื่อนขนาดใหญ่ในชั้น
เปลือกโลกเป็นผลมาจากการเคลื่อนที่ที่แตกต่างกันหรือเฉือนกันและเขตรอยเลื่อนมีพลัง 
(active fault zone) เป็นตำแหน่งที่ไม่แน่นอนของการเกิดแผ่นดินไหวทั้งหลาย แผ่นดินไหวเกิด
จากการปล่อยพลังงานออกมาระหว่างการเลื่อนไถลอย่างรวดเร็วไปตามรอยเลื่อน รอยเลื่อนหนึ่งๆ
ตามแนวตะเข็บรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกของการแปรสัณฐาน (tectonic) สองแผ่นเรียกว่า
รอยเลื่อนแปรสภาพขนาดใหญ่ (transform fault)

ด้วยปรกติแล้วรอยเลื่อนมักจะไม่เกิดขึ้นเป็นรอยเลื่อนเดี่ยวอย่างชัดเจน คำว่า “เขตรอยเลื่อน” 
(fault zone) จึงถูกนำมาใช้เมื่อกล่าวอ้างถึงเขตที่มีการเปลี่ยนลักษณะที่ซับซ้อนที่เกิดขึ้นร่วมกับ
ระนาบรอยเลื่อน ด้านทั้งสองของรอยเลื่อนที่ไม่วางตัวอยู่ในแนวดิ่งเรียกว่า “ผนังเพดาน”
 (hanging wall) และ “ผนังพื้น” (foot wall) โดยนิยามนั้นหินเพดานอยู่ด้านบนของรอยเลื่อนขณะ
ที่หินพื้นนั้นอยู่ด้านล่างของรอยเลื่อน นิยามศัพท์เหล่านี้มาจากการทำเหมือง กล่าวคือเมื่อ
ชาวเหมืองทำงานบนมวลสินแร่รูปทรงเป็นแผ่นเมื่อเขายืนบนหินพื้นของเขาและมีหินเพดาน
แขวนอยู่เหนือเขานั่นเอง


รูปภาพ  ชนิดของรอยเลื่อน

    3.ภูเขา (mountain) เป็นลักษณะของพื้นโลกที่มีความสูงกว่าพื้นที่บริเวณโดยรอบ
            ภูเขา หรือเทือกเขาหมายถึง ลักษณะภูมิประเทศ ที่มีความสูงตั้งแต่ 600 เมตรขึ้นไปจาก
พื้นที่บริเวณรอบ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเนินเขา แต่ว่าเนินเขานั้น จะมีพื้นที่สูงจากบริเวณรอบ ๆ
 ประมาณ 150 แต่ไม่เกิน 600 เมตร ภูเขาสามารถแบ่ง เป็นประเภทต่างๆ ดังนี้

    1.ภูเขาโก่งตัว เกิดจากการบีบอัดตัวของหินหนืด ในแนวขนาน
    2.ภูเขาเลื่อนตัวหรือหักตัว เกิดจากการเลื่อนของหินทำให้มีการยกตัวและการทรุดตัวเกิดเป็น
ภูเขา
    3.ภูเขาโดม เกิดจากการที่หินหนืดดันตัว แต่ว่ายังไม่ทันพ้นพื้นผิวของโลก ก็เย็นตัวก่อน
    4.ภูเขาไฟ เกิดจากการที่หินละลาย ก่อตัวและทับถมกัน






ที่มา : https://sites.google.com/site/janjira08060/phl-kar-kheluxnthi-cak-phaen-thrni-phakh

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น